วันอังคารที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

การกวนสับปะรด

ส่วนประกอบและวิธีทำสับปะรดกวน

ส่วนประกอบ
1.สับปะรด 3 กิโลกรัม
2.น้ำตาลทราย 1 กิโลกรัม
3.เกลือป่น ½ ช้อนโต๊ะ
4.น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำสับปะรดกวน
1.นำสับปะรดมาปอกเปลือกแล้วฝานตาออกให้หมด
2.จากนั้นนำมาผ่าครึ่งแล้วฝานออกเป็นชิ้นบางๆ แล้วนำมาซอยเป็นชิ้นเล็กๆ วิธีนี้จะทำให้ง่ายและเร็วกว่าการสับ
3.นำเนื้อสับปะรดที่ได้มาคั้นน้ำออก (น้ำที่คั้นออกเก็บไว้ทำเป็นน้ำสับปะรดดื่มได้)
4.จากนั้นนำเนื้อสับปะรดที่คั้นน้ำออก แล้วใส่ภาชนะสำหรับกวน เติมน้ำตาลทรายและเกลือป่น ช่วงแรกใช้ไฟกลางเมื่อตั้งไฟ สักครู่จะมีน้ำสับปะรดออกมาอีก เคี่ยวต่อไปอีกสักระยะ พอน้ำเริ่มงวดให้หรี่ไฟลงใช้ไฟอ่อนต้องหมั่นกวนเป็นระยะ
วิธีทำสับปะรดกวน
สับปะรดกวน
5.เมื่อน้ำสับปะรดใกล้จะแห้งต้องหมั่นกวน อย่างสม่ำเสมอเพราะไม่เช่นนั้น จะทำให้สับปะรดที่อยู่ก้นภาชนะไหม้ได้
6.กวนต่อไปจนเนื้อสับปะรดเริ่มใส ให้ใส่น้ำมะนาวลงไปแล้วกวนต่อจนสับปะรดกวนแห้ง ตามที่เราต้องการ ยกลงพักไว้ให้เย็น แล้วเก็บใส่ภาชนะแช่ตู้เย็นไว้ทานได้นาน สับปะรดกวนเป็นอาชีพเสริมทำที่บ้าน ที่ทำได้ไม่ยากค่ะ มีขั้นตอน และวิธีการง่ายๆเพียงเท่านี้แต่อาจต้องใช้เวลา และต้องใจเย็นในการกวน สับปะรดกวนนอกจากใช้ทาขนมปังทานกับกาแฟ หรือเครื่องดื่มต่างๆแล้วยังใช้ทำไส้ขนม แต่งหน้าไอศกรีม หรือทำเป็นขนมหวานเย็นใส่น้ำแข็งทานแล้วชื่นใจดีค่ะ

สรรพคุณ

รู้จักกับส่วนต่างๆของสับปะรด

ส่วนต่างๆของสับปะรดสับปะรด

สับปะรดเป็นผลไม้ลำต้นเตี้ย เจริญเติบโตได้ดีในสภาวะอากาศร้อนแห้ง แล้ง มีดินปนทราย ขนาดของผลสับปะรดจะใหญ่กว่าลำต้น ส่วนใบจะเรียวยาว และแข็งแรงใช้ในการกักเก็บน้ำได้ดีครับเพราะมีเส้นใยที่เหนียวมาก ตรงเปลือกของสับปะรดจะมีลักษณะแข็ง มีตา ปรากฎอยู่รอบ ๆ เปลือก เนื้อสับปะรดมีรสหวานอมเปรี้ยวชุ่มน้ำ บางพันธุ์มีรสหวานฉ่ำ ส่วนมากนะครับจะนิยมปลูกทั้งพันธุ์ปัตตาเวีย และพันธุ์ภูเก็ต แต่ในบ้านเราส่วนมากที่ขายกันอยู่ก็จะมี สับปะรด นางแล ภูแล เพชรบุรี ศรีราชา แล้วส่วนต่างๆของสับปะรดเนี่ย เขาเอามาทำอะไรกันบ้าง

สับปะรดแปรรูป

  • ผลสับปะรด จะเป็นส่วนที่มีเนื้อและน้ำ ซึ้งมีประโยชน์มากมายเลยครับ เราจะกินผลสดๆก็ได้ รวมไปถึงมาแปรรูปเป็น สับปะรดกวน ,สับปะรดในน้ำเชื่อมบรรจุกระป๋อง ที่เราเห็นทั่วไป , แยมสับปะรด และสับปะรดอบแห้ง หรือจะคั้นเป็นเครื่องดื่มน้ำสับปะรด,น้ำส้มสายชูก็ได้ครับ
ใบสับปะรด
  • ใบสับปะรด รู้ไหมครับว่า ใบสับปะรดเนี่ยเป็นเศษวัสดุที่มีมูลค่ามากเลยครับ เพราะเส้นใยที่เหนียวนั้น สามารถนำมาแปรรูปเป็นผ้าใยสับปะรด ซึ่งชาวฟิลิปปินส์ จะนิยมนำมาทำเป็นผ้าพื้นเมืองด้วยครับ อีกทั้งยังนำมาประยุกต์ใช้ทำเป็นกระดาษใบสับปะรด หรือเชือก
เปลือกสับปะรด
  • เปลือกสับปะรด  มีประโยชน์มากเช่นเดียวกันครับ เพราะตรงส่วนตาของสับปะรดนั้น อุดมไปด้วยสารอาหารที่มีคุณค่า จึงนิยมนำมาแปรรูปเป็นอาหารของโค หรือจะอบแห้งเผื่อนำมาเป็นส่วนผสมหลักๆของอาหารสัตว์อื่นๆ แถมยังนำมาทำเป็นน้ำหมัก ปุ๋ยชีวภาพได้ด้วยครับ
แกนสับปะรด
  • แกนสับปะรด  บางสายพันธุ์นะครับที่มีแกนกลางใหญ่ๆ จะนิยมนำมาแปรรูปเป็น แกนสับปะรดอบแห้ง และ แกนสับปะรดหยี ที่ไม่นิยมรับประทานสดๆเพราะ เนื้อของแกนสับปะรดจะมีลักษณะแข็งกระด้างครับ

ประโยชน์และสรรพคุณของ สับปะรด

ประโยชน์ของสัปปะรด1. ช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันแข็งแรง รับประทานสับปะรดวันละหนึ่งชิ้นก็จะช่วยให้ร่างกายได้รับวิตามินซี ที่สำคัญคือวิตามินช่วยในการทำงานของเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน และยังช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันแข็งแรง เพื่อป้องกันไม่ให้ร่างกายติดเชื้อและต่อสู้กับเชื้อโรคต่างๆ การรับประทานสับปะรดวันละหนึ่งชิ้นจึงเป็นการเพิ่มแรงต้านทานโรคให้แก่ร่าง กายแต่ในผู้ที่มีเลือดจางไม่ควรกินมากนัก 2. ช่วยในการย่อยอาหาร สับปะรดมีกากใยอาหารอาหารมากซึ่งมีความสำคัญกับการย่อยอาหาร และเป็นที่รู้กันอยู่ว่ากากใยอาหารช่วยลดคอเลสเตอรอล ควบคุมน้ำตาลในเส้นเลือดและช่วยลดความเสี่ยงของมะเร็งเพราะในสับปะรดมีเอนไซม์ตามธรรมชาติที่มีชื่อว่า “บรอมีเลน”สามารถช่วยย่อยอาหารได้ทั้งใสภาวะเป็นกรดและด่าง จึงเหมาะมากที่จะพาไปช่วยย่อยในกระเพาะซึ่งเป็นกรด หากกินสัปปะรดหลังอาหารเป็นประจำ จะช่วยในเรื่องของระบบขับถ่ายด้วยนะครับ (ใครที่กำลังอยากลดความอ้วนนี่ ผมคอนเฟริมเลยครับ ได้ผลดีจริงๆ ) 3. ช่วยให้เลือดลมไหลเวียนดี สับปะรดมีสารแอนตี้ออกซิแดนท์ เช่น วิตามินซี เบต้าแคโรทีน และแมงกานีสที่จะช่วยป้องกันอันตรายจากอนุมูลอิสระที่จะทำลายโครงสร้างของ เซลล์ และอาจทำให้เป็นโรคหัวใจและอัมพฤกษ์ อัมพาต นอกจากนี้ สารแอนตี้ออกซิแดนท์ยังมีความสำคัญต่อระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายอีกด้วยหลอดเลือด หลอดลมไหลเวียนดี4. ป้องกันความเสี่ยงจากโรคมะเร็ง การรับประทานผักและผลไม้เป็นประจำและลดความเสี่ยงจากโรคมะเร็ง โดยเฉพาะมะเร็งกระเพาะอาหาร และมะเร็งเต้านม เพราะสับปะรด มีสารแอนตี้ออกซิแดนท์ที่ช่วยป้องกันการเติบโตของเซลล์ร้ายในปอด ป้องกันมะเร็งรังไข่ 5. ช่วยป้องกันโรคต่างๆ การรับประทานผักและผลไม้ให้ได้วันละ 5 กำมือจะช่วยลดการเสียชีวิตด้วยโรคเรื้อรังต่างๆ เช่น อัมพฤกษ์ อัมพาต หรือมะเร็งได้ถึง 20% อีกทั้งยังเสริมสร้างการดูดซึมอาหาร เพราะสับปะรดมีกรด และวิตามินหลายชนิดครับ 6. ช่วยให้เหงือกแข็งแรงสับปะรดช่วยให้สุขภาพในช่องปากแข็งแรง เนื่องจากสับปะรดมีวิตามินสูงที่จะช่วยป้องกันความเสี่ยงจากโรคเหงือกได้ 7. ช่วยยับยั้งการอักเสบ เอนไซม์ Bromelain ในสับปะรดจะช่วยยับยั้งการอักเสบ ทั้งนี้ ชาวอเมริกาใต้โบราณใช้สับปะรดเป็นยารักษาโรคผิวหนังและรักษาบาดแผล  

วันอังคารที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2557

สับปะรด (ชื่อทางวิทยาศาสตร์: Ananas comosus) เป็นพืชล้มลุกชนิดหนึ่งที่มีต้นกำเนิดมาจากบริเวณทวีปอเมริกาใต้ ลำต้นมีขนาดสูงประมาณ 80-100 เซนติเมตร การปลูกสามารถปลูกได้ง่ายโดยการฝังกลบหน่อหรือส่วนยอดของผลที่เรียกว่า จุก เปลือกของผลสับปะรดภายนอกมีลักษณะคล้ายตาล้อมรอบผล
แต่ละท้องถิ่นเรียกสับปะรดแตกต่างกันออกไปเช่น
  • ภาคกลาง เรียกว่า "สับปะรด"
  • ภาคอีสาน เรียกว่า "บักนัด"
  • ภาคเหนือ เรียกว่า "มะนัด, มะขะนัด, บ่อนัด"
ภาคใต้ เรียกว่า "ย่านัด, ย่านนัด, ขนุนทอง,มะลิ"


ลักษณะของสับปะรด
   รูปลักษณะ ไม้ล้มลุกอายุหลายปี สูง 90-100 ซม. มีลำต้นอยู่ใต้ดิน ใบเดี่ยวเรียงสลับ ซ้อนกันถี่มากรอบต้น กว้าง 6.5 ซม. ยาวได้ถึง 1 เมตร ไม่มีก้านใบ ดอกช่อออกจากกลางต้น มีดอกย่อยจำนวนมาก ผลเป็นผลรวม รูปทรงกระบอก มีใบเป็นกระจุกที่ปลาย
สับปะรดเป็นพืชใบเลี้ยงเดี่ยว สามารถทนต่อสภาพแวดล้อมต่าง ๆ ได้ดี เป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญ เมื่อเจริญเป็นผลแล้วจะเจริญต่อไปโดยตาที่ลำต้นจะเติบโตเป็นต้นใหม่ได้อีก และสามารถดัดแปลงเป็นไม้ประดับได้อีกด้วย
สับปะรดแบ่งออกตามลักษณะความเป็นอยู่ได้ 3 ประเภทใหญ่ ๆ คือพวกที่มีระบบรากหาอาหารอยู่ในดิน หรือเรียกว่าไม้ดิน, พวกอาศัยอยู่ตามคาคบไม้หรือลำต้นไม้ใหญ่ ได้แก่ ไม้อากาศต่าง ๆ ที่ไม่แย่งอาหารจากต้นไม้ที่มันเกาะอาศัยอยู่ พวกนี้ส่วนใหญ่จะเป็นไม้ประดับ, และพวกที่เจริญเติบโตบนผาหินหรือโขดหิน
ส่วนสับปะรดที่เราใช้บริโภคจัดเป็นไม้ดิน แต่ยังมีลักษณะบางประการของไม้อากาศเอาไว้ คือ สามารถเก็บน้ำไว้ตามซอกใบได้เล็กน้อยมีเซลล์พิเศษสำหรับเก็บน้ำเอาไว้ในใบ ทำให้ทนทานในช่วงแล้งได้

รายชื่อสมาชิกกลุ่ม

     
1.นางสาวศุภิสรา  ฐิตานันทบุตร เลขที่ 6

2.นางสาววชิรญญาณ์  ทัศนุพันธุ์ เลขที่ 8

3.นางสาวจารุนันท์  ดอกไม้เพ็ง เลขที่19

4.นางสาวฐิติพร  ศรีราธารา เลขที่ 21

5.นางสาวศรุตา  โยถะกา เลขที่ 25

6.นายชินกฤต  วากย์เงินตรา เลขที่ 30

7.นางสาวนภัสสัร  เอมโอษฐ์ เลขที่ 31

8.นางสาวชยรัศ  จิวจินดา เลขที่35

9.นางสาวอรจิรา  อินทร์แก้ว เลขที่ 37

10.นางสาวบุญธิดา  นาคปัญญา เลขที่ 39

11.นางสาวสุพิชญา  แซ่ตั้ง เลขที่ 40

         ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/5

       โรงเรียน อัสสัมชัญระยอง